ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพานน้อย สถานที่แห่งนี้ในสมัยก่อนหนุ่มสาวชาวบ้านเวลาจะไปหาของป่า ใช้เป็นที่นัดหมายมาคอยกันที่นี่ หรือมาเที่ยวชมความงามกันตลอดเวลาจึงได้ชื่อว่าลานสาวคอย เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๒๘ มีการประดิษฐาน “พระพุทธมหามงคลบพิตรจัตุรทิศประทานพร” อันเป็นสัญลักษณ์ของการยุติการสู้รบเพื่อนำความสงบสุขมาสู่ดินแดนแห่งนี้ ต่อมาสำนักสงฆ์แห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็น “วัดดานสาวคอยวนาราม” เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๖ จากนั้นปี พ.ศ.๒๕๔๗ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อวัดใหม่ว่า “วัดภูพานอุดมธรรม” พร้อมทั้งโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญตราสัญลักษณ์เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบมาประดิษฐาน ณ ผ้าทิพย์องค์พระพุทธมหามงคลบพิตรจัตุรทิศประทานพร
ภายในวัดยังมีการสร้าง “อุทยานพระธาตุประจำวันเกิดจำลอง ๗ องค์” บนลานหินขนาดใหญ่ และมีศาลาการเปรียญอีกแห่งที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่งดงามบนหลังคา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้ ภายในห้องโถงของหลังคาพระใหญ่เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปหยกขาวขนาดใหญ่ศิลปะพม่า ขณะที่โดยรอบจุดนี้ จะมีลานหิน ซึ่งเป็นจุดชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งแม่น้ำโขงฝั่ง ส.ป.ป.ลาว องค์พระธาตุพนม และหนองหารในจังหวัดสกลนคร
: การเดินทาง วัดตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัด ๖๗ กิโลเมตร มีทางลาดปูนตลอดไปจนถึงเชิงเขา ๕ กิโลเมตร และขึ้นไปบนเขาที่วัดตั้งอยู่อีก ๒ กิโลเมตร ทางลาดปูนสะดวกเช่นกัน หากเดินทางมาจากอำเภอนาแก ตามถนนนาแก-รามคำแหง ประมาณ ๖ กิโลเมตร
ตำนาน
ผู้เฒ่าแก่เล่าต่อๆ กันมาว่า สมัยก่อนเทือกเขาภูพานนั้นมีความอุดมสมบูรณ์มาก มีสัตว์ป่ามากมายต้นไม้เขียวขจีในป่าที่อุดมสมบูรณ์มีลานหินมากมาย และมีลานหินลานหนึ่งที่มีความร่มเย็น ซึ่งเป็นที่ที่หนุ่มสาวคู่หนึ่งนัดเจอกัน ความรักของทั้งคู่กำลังบานสะพรั่งและเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ความรักของพวกเขาไม่ได้ราบรื่นสวยงามเหมือนถนนที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เนื่องมาจากชายหนุ่มผู้เป็นคนรัก นั้นเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจนมากๆ แต่เขาก็รักคนรักของเขาด้วยใจที่บริสุทธิ์ ผู้เป็นฝ่ายหญิงก็ไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกฝ่ายชายเลย มีแต่ทวีความรักให้ฝ่ายชายมากขึ้นทุกวัน แต่ความรู้สึกของพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ได้คิดเหมือนที่ลูกสาวของตนคิด เขาจึงอยากให้ลูกเขยรวยและเหมาะสมกับฐานะของตน พ่อแม่ของฝ่ายหญิงจึงทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางความรักของลูก โดยไม่ยอมให้สองคนนั้นได้พบเจอกันเลย แล้วเรื่องเศร้าก็เกิดขึ้น เมื่อฝ่ายหญิงได้เขียนจดหมายไปให้ฝ่ายชาย โดยฝากไปกับคนใช้ที่บ้าน เพื่อนัดเจอกันที่ลานหินบนภูเขาที่นัดเจอกันประจำ แต่พ่อแม่ฝ่ายหญิงได้กำชับและย้ำกับคนใช้ทุกคนว่า ถ้าผู้เป็นลูกสาวตนฝากของให้ใครต้องเอามาให้ตนดูก่อน ผู้ที่เอามาให้ดูจะได้รับรางวัลอย่างงาม เมื่อถึงวันเวลาตามที่นัดหมาย ฝ่ายหญิงก็ได้ไปรอตามนัด และก็รอจนแล้วจนเลาชายคนรักก็ไม่มา ฝ่ายหญิงเสียใจมากที่ชายคนรักไม่มาตามนัดจึงได้ตรอมใจตาย ณ หน้าผาแห่งนั้น
จนเมื่อหลายวันผ่านไป ผู้เป็นพ่อแม่รู้สึกเอะใจเหตุใดลูกสาวจึงไม่ยอมกลับบ้าน จึงส่งคนออกตามหา และก็พบเพียงร่างไร้วิญญาณของลูกสาว เมื่อชายคนรักรู้ข่าวจึงเสียใจมาก เขาไปที่หน้าผาแห่งนั้น แล้วกระโดดหน้าผาตายตามหญิงคนรักไป
หลายปีผ่านไป ก็ได้มีพระธุดงค์ผ่านไปแถวนั้นและได้ปักกรดบำเพ็ญภาวนาที่หน้าผาแห่งนั้นพระธุดงค์เห็นเป็นที่เหมาะสมที่จะเป็นวัด จึงได้ไปบอกบุญแก่ชาวบ้านมาสร้างวัด และวัดนั้นก็ได้ชื่อว่า “วัดดานสาวคอย” และปัจจุบันได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถว่า “วัดภูพานอุดมธรรม” และเกิดเป็นหมู่บ้านใหม่ขึ้นมา เรียกว่า “บ้านดานสาวคอย”
ดานสาวคอยเป็นหมู่บ้านหนึ่งในตำบลนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ดานสาวคอยตั้งอยู่ติดเชิงเขาของเทือกเขาภูพาน เป็นหมู่ที่ตั้งชื่อตามตำนานที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อกันมาช้านาน “ดาน” ในที่นี้หมายถึง หินดินดานหรือลานหินนั้นเอง
.
.
แผนที่การเดินทาง
.
แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook